115 วันแห่งการเรียนรู้
- Tae Aram
- 14 ก.พ. 2561
- ยาว 2 นาที

115 วันแห่งการเรียนรู้
วันที่ 1-30
"อยากสำเร็จแต่แอบทำเอง"
เข้าฟิเนตเองที่คอนโด คูคลิปแล้วเอามาทำตามบ้าง อ่านหนังสือบ้าง แต่สุดท้ายดูแล้วไม่เวิร์คเลย (น้ำหนักลงแต่ย้วยเหมือนเดิม)
วันที่ 31-50
"คุยและถามกับคนสำเร็จดีกว่า"
เริ่มถามพี่ๆเพื่อนๆที่รู้จักที่เล่นฟิเนสว่าเราทำแบบนี้ถูกไหม (คำตอบส่วนมาคือ กูทำมาผิดหมดเลย 30 วันแรก) ชวนมาเล่นด้วยกัน แล้วให้เค้าดูท่าให้เรา แต่ก็ดูเหมือนไม่ค่อยได้อะไร
วันที่ 51-115 "มอบตัวกับโค้ชมืออาชีพ" ผมตัดสินใจจ้างเทรนเนอร์มืออาชีพมาดูแลผม ซึ่งบอกผมก็บอกตรงๆถึงเป้าหมายของผม ซึ่งเทรนเนอก็บอกว่าเป้าหมายของผม ไม่ง่ายแต่เป็นไปได้

เป้าหมายอะไร ได้เมื่อไหร่ ต้องชัด ต้องดูบ่อยๆ คิดถึงบ่อยๆ พูดบ่อยๆ
ความสำเร็จมี 2 ครั้งเสมอครับ ครั้งแรกในจินตนาการ ครั้งที่สองตอนทำได้จริง
ถ้าครั้งแรกยังทำไม่ได้ จะมีครั้งที่สองได้ยัง
พยายามหาเป้าหมายหุ่นที่เราอยากได้ ไอดอลของเราที่อยากได้หุ่นแบบนั้นจริงๆ (หาในเนตก็ได้) ต้องมีเลยนะครับสำคัญมากๆ ชนิดที่ว่าเราพูดได้ชัดเจนว่า "ฉันต้องอยากมีหุ่นแบบ....ให้ได้ ภายใน......เดือน" แล้วเอารูปนั้นไปอยู่ในที่ที่เราเห็นบ่อยที่สุด
ของผมอยากได้หุ่นแบบพอล วอกเกอร์ และ ที่ๆเห็นบ่อยสุดคือหน้าจอมือถือ
เป้าหมายในวันที่ไม่เกิดขึ้นจริง มักเป็นตลกของคนอื่นเสมอ
พอผมเปลี่ยนพักหน้าจอเป็นพอล วอกเกอร์ คนส่วนมากที่เห็นจะหัวเราะบ้าง แซวบ้าง หาว่าผมเป็นเกย์บ้าง
เชื่อไหมทุกครั้งที่มีคนถามว่ารูปอะไร ผมจะตอบเค้าเสมอแบบไม่อายว่า
"หุ่นกูต้องมีแบบพอล วอกเกอร์ให้ได้ทันมัลดิฟ"
ส่วนมากก็เห็นที่เพื่อนๆคิดแหละ ก็จะบอกว่าผมทำไม่ได้หรอก มันยากมากๆ
(แซวไม่พอ แช่งอีกนะพวกนี้)
เชื่อไหมมีหลายครั้งที่ผมอยากกินอะไรอร่อยๆอ้วนๆ มีหลายครั้งที่ขี้เกียจกินอาหารเสริม มีหลายครั้งที่ไม่อยากออกกำลังกาย แต่พอเผลอเปิดโทรศัพท์เมื่อไหร่ ผมเด้งทุกครั้ง ตบหน้าผมให้ได้สติทุกครั้งว่าต้องลุยต่อ อัดต่อ ท้อไม่ได้
***********************
คงเหมือนกับทำเครือข่ายสร้างชีวิต
ผมเจอหลายคนทำแปปๆก็เลิก
เจอปัญหานิดหน่อยก็เลิก
เจอแซวก็เหี่ยว
เจอปฎิเสธก็ท้อ
เหนื่อยหน่อยก็ไม่สู้
ส่วนมากคือคนที่ผมถามไปว่าเป้าหมายที่ทำเครือข่าย คืออะไร
"อยากรวยครับ" ....รวยเท่าไหร่...."ยังไม่รู้เลย เอารวยที่สุด".... เมื่อไหร่หรอ??? ..... "เร็วที่สุดครับ"
"อยากให้พ่อแม่สบาย" ....แบบไหนคือสบาย???....พ่อแม่หยุดทำงานครับ....แล้วเราต้องมีเท่าไหร่พ่อแม่ถึงหยุดทำงานได้..."ไม่แน่ใจเลยครับ".... เมื่อไหร่หรอ??? ..... "เร็วที่สุดครับ"
"อยากมีรถสปอร์ตขับ" .... เมื่อไหร่หรอ??? ..... "เร็วที่สุดครับ"
พวกที่ตอบแบบนี้ส่วนมากเลิกก่อนชาวบ้าน
ลองถามตัวเองอีกสักครั้งก่อนดีกว่าครับ เป้าหมายแรกสุดในชีวิตของเราคืออะไร อย่าฟุ้ง
ถามตัวเองอีกครั้งดีไหม สำเร็จเพื่ออะไร เมื่อไหร่ ลองตอบดังๆให้ตัวเองฟังดูสิครับ

วันพัก คือ วันพัก
เวลาเล่นเวตหนักๆหลายๆวัน เราต้องวันพักกล้ามเนื้อ 1-2 วันเลย ซึ่งบางคนจะรู้สึกไม่อยากพัก บางคนรีบร้อนอัดต่อเรื่อยๆ บางคนไม่เล่นเวตก็ขอไปวิ่ง หรือ ปั่นจักรยาน จนบางคนดูโทรม ดูล้าเลยก็มี
สำหรับผมวันพักคือวันที่ต้องไม่ทำอะไรเลย เวตไม่แตะ คาดิโอไม่ทำ เพื่อให้กล้ามเนื้อได้พัก ได้ฟื้นตัวอย่างเต็มที่ครับ
การไม่วิ่ง ไม่เวต ไปสัก 1 วัน ไม่ได้ทำให้เราอ้วนขึ้น หรือ กล้ามหายหรอกครับ
********
คงเหมือนกับการทำเครือข่ายสร้างชีวิต
เราควรแบ่งเวลาให้ดี ในการให้เวลากับตัวเอง หรือ ครอบครัว ไม่ควรเอาแต่สร้างเครือข่ายทำงานตลอด 24 hr ทุกวัน เพราะจะทำให้เราล้า เครียดสะสม และที่สำคัญคนรอบข้างจะยิ่งมีแรงต้านมากขึ้น มองว่าธุรกิจนี้ไม่ดี ไม่น่าทำ
อย่างน้อยใน 1 อาทิตย์ เราควรมี "วันของเรา" สัก 1 วัน ที่ทำอะไรก็ได้ที่ไม่ใช่เครือข่าย กับตัวเอง กับครอบครัว กับเพื่อนๆ เพื่อให้เราได้ผ่อนคลายบ้าง
แต่ก็ไม่ใช่ผ่อนซะทุกวัน ทำงาน 1 วัน คลาย 6 วัน แบบนี้ก็ไม่ไหวนะครับ (อ้างว่าพักซะบ่อยเลย)
วันไหนทำงานทำให้สุด เอาให้เต็มที่
วันไหนพัก กล้าพัก และปลดปล่อยให้เต็มที่
จัด "สมดุลชีวิต" ให้ได้ ผมเชื่อว่าเราจะมีความสุขในการทำงานมากขึ้นครับ
ถามตัวเองดู พักของคุณนอกจากเครือข่าย ทำอะไร หาเวลาทำอาทิตย์ละ 1 วัน

คาดิโอหนักนิดๆนานๆ ดีกว่า คาดิโอหักโหมแต่แปปเดียว
ส่วนตัวผมหลังเวตจะชอบคาดิโอต่ออีกสัก 40นาที ถึง 1ชั่วโมงเสมอ ถ้าเราต้องการเบิร์นพลังงานสัก 300-400 kcal จะมี 2 ทางเสมอคือ
1. วิ่งเร็วๆเลย สัก 20 นาทีก็ถึง
2. เดินราบชิลๆ สัก 1.30 ชั่วโมงก็ถึง
3. เดินชันฝืนนิดๆ สัก 40-45 นาทีก็ถึง
ส่วนตัวผมเลือก ข้อ 3 ครับ (ความจริงทำมาทั้ง 3 ข้อแล้ว)
ข้อ 1 ทำบ่อยๆผมจะรู้สึกแปล๊บๆเข่า(หรือว่าแก่แล้วหว่า) แล้วอีกวันนึงเหมือนร่างกายจะล้า แล้วเวตได้น้อยลง
ข้อ 2 นานไป เบื่อ และเหมือนหัวใจไม่ได้เต้นเร็วขึ้นเยอะ เหงื่อออกน้อยมาก
ข้อ 3 ขาได้ออกแรงมากขึ้นเพราะเดินชัน (ชัน 14) กับความเร็วที่เหมาะสม (speed 6) เหงื่อออกเยอะมาก ได้เผาพลังงานเยอะ และ เวลาที่ใช้ไม่เยอะไป
***********************
คงเหมือนกับทำเครือข่ายสร้างชีวิต
ส่วนตัวผมคิดว่าการทำเนื้องานเครือข่ายต้อง "หนักพอ+นานพอ"
ผมเจอทีมงานบางคนทำแบบคาดิโอข้อ 1
คือ ฮอต ตื่นเต้น ร้อนวิชา คึกทีกับทำที ลุยหนักมากๆ ทำเยอะมากๆ ไม่พักผ่อน ทำทั้งวันทั้งคืน (ส่วนมากคือออกมาจากงาน camp) แต่สุดท้ายพอผลลัพธ์ไม่ได้ดังใจก็หยุดทำเลย เหนื่อยไปก็หยุดทำเลย หรือเสียสมดุลชีวิตไปจนมองเครือข่ายไม่ดี พวกนี้เรียกว่า "หนักไป+ไม่นานพอ"
ผมเจอทีมงานบางคนทำแบบคาดิโอข้อ 2
คือ ไม่รู้ฮอตไหม แต่อยู่มาเรื่อยๆ ทำบ้าง ไม่ทำหลาย (หนักไปทางไม่ทำ) สุดท้ายผลลัพธ์ไม่เกิด เพราะ เนื้องานน้อยไปมากๆ พวกนี้เรียกว่า "หนักไม่พอ+นานไป"
และกลุ่มคนที่ทำแบบคาดิโอข้อ 3
คือ ทำไม่หักโหม แต่ทำเรื่อยๆ (ทำน้อยกว่าพวกข้อ1 แต่มากกว่าข้อ 2) ทำงานตามวินัย มากกว่าทำงานตามอารมณ์ คนกลุ่มนี้มักประสบความสำเร็จต่อเนื่องครับเท่าที่ผมเจอ พวกนี้เรียกว่า "หนักพอ+นานพอ"
(แทบจะไม่เห็นคนแบบนี้ไม่สำเร็จเลยครับจริงๆ)
ลองสำรวจตัวเราดูครับว่าถ้าวันนี้ผลลัพธ์เรายังไม่ได้ดังใจ เรามีตรงไหน "ไม่พอดี" บ้างครับเพื่อนๆ
Comments